ในเกม Poker ลำดับไพ่ Poker มีความสำคัญอย่างมาก นอกจากแต้มที่ไพ่แล้ว การเรียงไพ่ให้ได้ตามลำดับถือเป็นเป้าหมายหลักของเราเลย ยิ่งเราเรียงไพ่ได้แต้มดีเท่าไหร่ เรายิ่งมีโอกาสชนะมากขึ้นในตานั้นๆ ซึ่งโป๊กเกอร์ทุกเกม จะอิงการเรียงไพ่นี้ทั้งหมด ไพ่ไหนคะแนนเป็นยังไงไปดูกัน เรียกจากการเรียงไพ่คะแนนสูงสุดไปถึงคะแนนน้อยสุดนะครับ
หมายเหตุ – Kicker หรือเรียกว่าตัวคุม จะเรียกใช้กรณีที่ไพ่มีคะแนนเท่ากัน ตัวคุมนี้ก็คือไพ่ใบที่มีแต้มสูงที่สุด ที่นอกเหนือจากไพ่ที่เราผสมเป็นชุดไพ่วัดลำดับคะแนน เช่นคู่ Ace เหมือนกัน(กรอบสีฟ้า) ใบที่เหลือจะเป็นตัววัดว่าตัวคุม (วงสีแดง) ใครใหญ่กว่า ดังภาพครับ ทำให้คู่ Ace, 7 ชนะ เพราะตัวคุม 7 ใหญ่กว่า 2
ลำดับไพ่ Poker
- Royal Straight Flush – คือไพ่ที่เรียงกันด้วย Ace, K, Q, J, 10 ด้วยดอกเดียวกัน เป็นการเรียงไพ่ที่ใหญ่ที่สุด โอกาสออกแบบนี้น้อยมากๆ ถ้าไม่ดวงดีจริงๆ คงไม่ออกมาเลย โอกาสออกอยู่ที่ 0.00015%
- Straight Flush – คือไพ่ที่เรียงกัน 5 ใบด้วยดอกเดียวกันทั้งหมด ออกยากมาก แต่ก็มีโอกาสเห็นกันได้อยู่บ้าง โอกาสออกอยู่ที่ 0.0015%
- Four of kind – คือไพ่แต้มเดียวกัน 4 ใบเรียงกัน โอกาสออก 0.024%
- Full House – คือไพ่เรียงด้วยตอง 1 ชุด และ คู่ 1 ชุด ถ้าผลออกมาเท่ากับผู้เล่นอื่น ให้ตัดสินจากเลข ตองก่อน แล้วดูที่คู่ว่าใครใหญ่กว่า โอกาสออก 0.14%
- Flush – คือไพ่ที่มีดอกเดียวกันทั้งหมด แบบไม่ได้เรียงลำดับ ถ้ามีผู้เล่นอื่นออกเหมือนกันให้นับตัวใหญ่สุดเป็นตัว Kicker โอกาสออก 0.2%
- Straight – คือไพ่ที่เรียงลำดับกัน 5 ใบแบบดอกใดก็ได้ ถ้ามีผู้เล่นอื่นออกเหมือนกันให้นับตัวที่ใหญ่สุดเป็นตัว Kicker โดย Ace ถือเป็นได้ทั้งแต้มใหญ่สุด หรือเล็กสุด โดย ถ้าเรียง A, K, Q, J, 10 จะถือว่า Ace ใหญ่สุด แต่ 5, 4, 3, 2, A จะถือว่า Ace เล็กสุด โอกาสออก 0.39%
- Three of kind – คือไพ่ที่มีแต้มเดียวกัน 3 ใบเรียงกัน ถ้าผู้เล่นอื่นออกเหมือนกันให้ดูอีก 2 ตัวที่เหลือเป็นตัว Kicker โอกาสออก 2.1%
- Two Pair – คือไพ่คู่ 2 คู่ ถ้ามีผู้เล่นอื่นออกเหมือนกันให้ดูคู่แรกก่อน และคู่ที่สองตามลำดับ ถ้าเหมือนกันอีกให้ดูตัวสุดท้ายเป็น Kicker โอกาสออก 4.75%
- One pair – คู่เดียว เป็นไพ่ที่ออกบ่อยมากที่สุด นับว่าคู่ใครใหญ่กว่า แต่ถ้าออกแต้มเท่ากันให้ดูไพ่ที่เหลือว่าใครใหญ่กว่าเป็น Kicker โอกาสออก 42%
- High Card – ไพ่แต้มสูง กรณีไม่ตรงกับการเรียงแบบไหนเลย ใครแต้มสูงกว่าชนะ ถ้าแต้มเท่ากันดูใบถัดไป แต่ถ้ายังเท่ากันอีกแบ่งเงินกองกลาง โอกาสออก 50%
สรุป คะแนนของไพ่เรียงจากคะแนนมากสุดไปน้อยสุดดังนี้ Royal flush>Straight Flush>Four of kind>Full House>Flush>Straight>Three of kind>Two pair>One pair>High card
ในการเล่นเกม Poker ออนไลน์นั้น ทางเราก็มีระบบการฝากเงิน Autobet เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาทดลองใช้งานในการเล่นที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ส่วนใหญ่ถ้าเราไม่มีไพ่ที่น่าจะเรียงต่อกันได้ดีๆ หรือไม่มีสักคู่ตั้งแต่การแจกไพ่ flop (ไพ่กองกลาง 3 ใบแรก) จะทิ้งไพ่กันไปเลย เพราะการเล่น High card (ไพ่แต้มสูงเฉยๆ) เป็นอะไรที่เสี่ยงมาก เพราะส่วนใหญ่จะมีคนออก 1 คู่แทบทุก รอบ แต่ก็อย่างว่าเกมนี้มัน ไม่ใช่แค่ไพ่ดีจะชนะ มันมีสิ่งที่เรียกกว่าการ บลัฟ หรือการลักไก่ เพื่อข่มขวัญ หรือท้าทายผู้เล่นอื่นได้ตลอดการแข่งขัน ถ้าผู้เล่นอื่นมีแต้มคู่แต่เราหลอกล่อให้เขาคิดว่าเรามีไพ่เรียงใหญ่กว่า เราก็อาจชนะได้โดยไพ่ที่แต้มน้อยกว่าก็ได้
คำศัพท์ในเกม โป๊กเกอร์
ศัพท์ที่ใช้เรียกกันในเกมโป๊กเกอร์นั้นแม้แต่คนที่ใจแข็งที่สุดก็อาจจะตระหนกตกใจได้ แต่เราจะพยายามอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ต่อไปนี้คือศัพท์ที่ใช้กันทั่วไปในเกมโป๊กเกอร์:
- การแจกครั้งแรก
ไพ่ชุดแรกที่แจกให้ผู้เล่นก่อนที่ผู้เล่นจะต้องตัดสินใจ
- ไพ่โฮล (HOLD CARDS)
ไพ่ 2 ใบแรกที่แจกให้ท่านโดยคว่ำหน้าลง จะเรียกกันอีกอย่างว่า “พ็อคเก็ตคาร์ด” ในเท็กซัส โฮลด์เอ็ม.
- แบ๊ดบีท (BAD BEAT)
คำนี้เป็นศัพท์ที่ใช้หมายถึงตอนที่ท่านมีไพ่ในมือที่ดีมาก แต่ก็ต้องแพ้มือที่ดีกว่า ห้องโป๊กเกอร์บางแห่งให้รางวัลแจ็คพ็อตสำหรับมือแบ๊ดบีทที่ดีที่สุด ซึ่งก็คือมือแพ้ที่ดีที่สุดนั่นเอง
- บิ๊กบลายด์ (BIG BLIND)
ผู้เล่นที่อยู่ทางซ้ายมือของเจ้ามือวางสมอลบลายด์ (เดิมพันบังคับ) ซึ่งเท่ากับครึ่งหนึ่ง ของเดิมพันจำนวนน้อยที่สุด ผู้เล่นที่อยู่ทางซ้ายมือของเขาจะวางบิ๊กบลายด์ ซึ่งมีเท่ากับเงินเดิมพันที่น้อยที่สุด
- สมอลบลายด์ (SMALL BLIND)
ดู บิ๊กบลายด์
- เจ้ามือ (DEALER)
คือผู้เล่นที่ได้รับการตั้งให้เป็นเจ้ามือในแต่ละมือ เขาไม่ได้เป็นคนแจกไพ่จริงๆ แต่เป็นคนที่วางเดิมพันเป็นคนสุดท้าย จึงเป็นตำแหน่งที่อาจได้เปรียบ
- บอร์ด (BOARD)
ไพ่หงายในเกมฟล็อป
- ปุ่ม (BUTTON)
แผ่นกลมที่จะบอกว่าใครเป็นเจ้ามือสำหรับมือนี้ ปุ่มนี้จะเลื่อนตามเข็มนาฬิกา (ไปทางซ้าย) ในแต่ละมือ
- เงินกองกลาง (POT)
ชิปทั้งหมดที่อยู่กลางโต๊ะ เป็นจำนวนเงินที่เราจะได้เมื่อเล่นชนะ
- สู้ (CALL)
เดิมพันที่เท่ากับเดิมพันที่วางอยู่ตอนนั้น
- หมอบ (FOLD)
การทิ้งไพ่ เมื่อท่านคิดว่าไพ่ในมือของท่านไม่ดีพอที่จะเล่นแล้ว
- ผ่าน (CHECK)
หากไม่มีการวางเดิมพันเพิ่มอีก ท่านสามาารถผ่านแล้วรอดูว่าจะมีคนอื่นวางเดิมพันหรือไม่ หากทุกคนผ่าน เกมก็จะเลื่อนไปเล่นรอบต่อไป
- เก, เกทับ (RAISE, RE-RAISE)
เดิมพันที่เป็นการเพิ่มเงินเดิมพันที่วางอยู่ในตอนนั้น
- เทหน้าตัก (ALL-IN)
เมื่อผู้เล่นมีชิปไม่พอที่จะ “สู้” เขาต้องเดิมพันด้วยชิปทั้งหมดที่มีรวมทั้งเงินกองกลางในตอนนั้นด้วย เดิมพันใดๆ ที่วางหลังจากนั้นจะอยู่วางไว้นอกกองกลาง เรียกว่าไซด์พ็อต และเขาจะไม่เกี่ยวข้องกับเงินไซด์พ็อตนี้ หากมือของเขาสูงที่สุด เขาจะได้เงินจากเงินกองกลางเท่านั้น แต่จะไม่ได้เงินไซด์พ็อต
- ฟล็อป (FLOP)
ไพ่ 3 ใบแรกในไพ่หงายของเกมเท็กซัส โฮลด์เอ็ม หรือ โอมาฮ่า โป๊กเกอร์.
- เทิร์น (TURN)
ไพ่ใบที่ 4 จากกองกลางในเกมฟล็อป
- ริเวอร์ (RIVER)
ไพ่ใบสุดท้ายในไพ่หงายของเกมฟล็อป และหมายถึงไพ่ใบสุดท้ายใน 7 คาร์ด สตั๊ด.
- ตัวคุม (KICKER)
ไพ่แต้มสูงที่อยู่กับไพ่คู่หรือ 2 คู่
- มัคคาร์ด (MUCHKED CARDS)
การทิ้งไพ่โดยที่ไม่ให้ใครเห็นไพ่นั้น
- นัท (NUTS)
มือที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในเกม มือที่ชนะทุกมือ และสมควรจะวางเดิมพันให้มากๆ
- พ็อคเก็ตคาร์ด (POCKET CARDS)
มีความหมายเหมือนกับไพ่โฮล
- โพสต์ (POST)
โพสต์ โดยขึ้นอยู่กับ โป๊กเกอร์ เกม.
- อัตราการหักเงินกองกลาง (RAKE)
เงินที่คาสิโนดึงมาจากเงินกองกลางทุกครั้งเป็นค่านายหน้า
- ฟิช (FISH)
ผู้เล่นที่อ่อนหัดที่สุดในโต๊ะ เป็นคนที่เสียเงินมากที่สุด เกี่ยวกับคำนี้จะมีสำนวนอยู่ว่า “หากมองดูไปรอบๆ โต๊ะแล้วไม่เจอคนที่อ่อนที่สุด แสดงว่าตัวคุณนั่นเองที่อ่อนที่สุด และคุณควรจะเลิกเล่นได้แล้ว”
- รอบของการวางเดิมพัน (ROUNDS OF BETTING)
รอบของการวางเดิมพันจะจบลงเมื่อผู้เล่นทุกคนได้มีโอกาสที่จะหมอบ สู้ หรือเพิ่มแล้ว
- เปิดทั้งหมด (SHOWDOWN)
เมื่อการวางเดิมพันเสร็จสิ้นผู้เล่นทุกคนจะต้องเปิดไพ่ทุกใบในมือ เพื่อดูว่าใครมีมือที่สูงที่สุด