การบริหารจัดการรายได้จากบ่อนพนันให้โปร่งใสเป็นระบบก็คงทำได้ยาก ทั้งยังเสี่ยงจะเกิดอาชญากรรมด้านต่างๆ เพิ่ม เช่น แก๊งทวงหนี้นอกระบบ การทำให้บ่อนถูกกฎหมายจึงมีราคาที่สังคมต้องจ่ายแพง ไม่อาจปล่อยให้คนไม่กี่คนชี้ขาดโดยไม่ถามประชาชนได้ ส่วนใหญ่คนไทยจะมองว่าเป็นการมอมเมาประชาชน อาจทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัว ปัญหาหนี้สิน ปัญหาอาชญากรรม และประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ไม่ควรจะมีการพนันแบบถูกกฎหมาย ทำให้เกิดมีบ่อนการเล่น การพนัน และการเปิดเว็บไซด์พนันออนไลน์
การพนัน ‘ผิดศีลธรรม’ แต่อยู่คู่สังคมไทยมานานแล้ว
บ่อน
บ่อน ในความเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ‘สถานที่เล่นพนัน’ แต่ที่ใดก็ตามที่ธุรกิจการพนันเข้ามาแสวงหากำไร สถานที่เหล่านั้นจะถูกทำให้เข้าใกล้กับตัวนักพนันมากขึ้นเป็นพิเศษ ทั้งในเชิงพื้นที่และในเชิงการรับรู้ บ่อนการพนันยุคนี้จึงเป็นแหล่งการพนันที่กระจายตัวอยู่ในทุกหนแห่ง ทั้งในโลกความเป็นจริง และโลกเสมือนจริง หรือก็คือโลกออนไลน์ในอินเตอร์เน็ต
บ่อนพนันในโลกแห่งความเป็นจริง มีคนไทยที่อายุ 15 ปีขึ้นไป เล่นการพนันในบ่อนอยู่ประมาณร้อยละ 9.35 หรือคิดเป็นจำนวน 4.935 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นนักพนันหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่นพนันในบ่อน 171,135 คน เกือบทั้งหมดนิยมเล่นพนันในบ่อนตามบ้านบ่อนวิ่ง และบ่อนงานศพ ซึ่งมีความยืดหยุ่นและเข้าถึงได้ง่ายในชีวิตประจำวัน แต่ก็มีอยู่บ้างที่เล่นพนันในบ่อนถาวรในประเทศ บ่อนชายแดนในประเทศเพื่อนบ้าน และมีเพียงส่วนน้อยที่เดินทางไปเล่นในบ่อนต่างประเทศที่ไม่ติดชายแดน
เนื่องด้วยความยืดหยุ่นและเข้าถึงง่าย พฤติกรรมการเล่นพนันในบ่อนจึงค่อนข้างหลากหลาย เงินที่ใช้เล่นพนันเฉลี่ยตํ่าสุดคือ 50 บาทต่อครั้ง และบางครั้งที่เล่นหนัก ๆ จะมีค่าเฉลี่ยสูงสุดที่ 50,000 บาทต่อครั้งเลยทีเดียว โดยกลุ่มตัวอย่างที่เล่นพนันบ่อยสุดจะเข้าบ่อนทุกวัน แต่โดยค่าเฉลี่ย นักพนันส่วนใหญ่จะเข้าบ่อน 3 ครั้งต่อเดือนและใช้เงินเล่นพนันเฉลี่ยครั้งละ 584 บาท
ประเด็นคือรายได้จากอุตสาหกรรมพนันถูกกฎหมายไม่ได้เข้าประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพราะบ่อนกาสิโน ‘ที่ได้มาตรฐานสากล’ ส่วนใหญ่เป็นกิจการที่เกี่ยวพันคนหลายชาติ เช่น เมื่อประมาณปี 2539-2540 นักลงทุนไทยที่เป็นเจ้าของบ่อนในกัมพูชา จ้างบริษัทเอกชนจากออสเตรเลียบริหารงานและจ้างพนักงานฟิลิปปินส์ที่พูดภาษาอังกฤษได้ดี ถ้าไทยจะเปิดบ่อนพนันถูกกฎหมายในยุคนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะต้องอาศัยเทคโนโลยีและระบบที่เคยใช้ได้ผลในที่อื่นๆ มาก่อน
พนันออนไลน์
เมื่อพูดถึง พนันออนไลน์ จะขอเฉพาะเจาะจงถึงคาสิโนออนไลน์ เพราะมีการเปลี่ยนรูปแบบจากการเล่นที่บ่อน ที่ต้องเดินทางไปเจอหน้าเจอตา มีช่วงเวลาเล่น ไปสู่การเล่นออนไลน์ ที่มีทั้งการเล่นเสมือนจริงแบบไลฟ์สดจากคาสิโนและมีตัวแทนเล่น และการเล่นผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น เกม Slot Machine ส่วนใหญ่รูปแบบการเล่นไม่ค่อยแตกต่างกันมาก เกมที่มีผู้เล่นมากที่สุดคือบาคาร่ากับป๊อกเด้ง รองลงมาคือพวก slot machine การเล่นส่วนใหญ่จะเหมือนเล่นในบ่อนการพนันทั่วไป จะแตกต่างก็ตรงที่พนันออนไลน์สามารถเล่นต่อเนื่อง เล่นได้ทุกที่ตลอดเวลา จนทำให้ติดพัน ส่วนการเล่นพนันอย่างอื่น เช่น ทายผลพนันบอล หวยออนไลน์ มีให้เห็นอยู่แล้ว และการเล่นบางประเภทก็ทำออนไลน์กันมานานแล้ว ไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากัน ลักษณะการเล่นเหมือนเดิม แค่มีช่องทางเพิ่มขึ้น ซึ่งจำนวนเกมกำหนดตายตัวตามการแข่งขัน และการออกรางวัล
การพนันออนไลน์มันไม่ใช่เรื่องดวงหรือโชค แต่มันเป็นเรื่องของคณิตศาสตร์ที่ถูกคำนวณออกมาแล้วว่าเจ้ามือต้องได้กำไร ถ้าเจ้ามือได้กำไรแล้วใครละจะขาดทุนถ้าไม่ใช่สมาชิกที่เข้าไปเล่น แต่อย่างว่าแหละครับใครแอบเปิดบ่อนก็โดนตำรวจรวบ การพนันออนไลน์ก็เลยออกมารองรับความต้องการในจุดนี้ ถ้าวันใดประเทศไทยมีคาสิโนถูกกฎหมาย เว็บพนันออนไลน์ก็คงเสียลูกค้าไปเยอะเหมือนกัน โดยรวมแล้วเข้าคาสิโนผมว่าผู้เล่นก็ยังมีโอกาสชนะมากกว่าเล่นพนันออนไลน์เสียอีก
เหตุผลที่หลายคนหันเข้าไปเล่นพนันออนไลน์ดังต่อไปนี้
- บ่อนพนันออนไลน์เข้าถึงได้ง่าย อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด
- บ่อนพนันออนไลน์มีความทันสมัยและปรับตัว
- ธุรกรรมออนไลน์ยุคใหม่สะดวก ปลอดภัย ง่ายต่อการปกปิดตัวตน
สุดท้ายแล้วระบบออนไลน์จะเข้ามาแทนที่
ธุรกรรมออนไลน์ยังเข้ามาตอบโจทย์ให้กับคนที่ไม่กล้าเข้าบ่อน เพราะกลัวคนอื่นจะเห็นหรือจับได้ว่าไปเล่นพนัน รวมไปถึงคนที่ไม่กล้าเปิดบัญชีกับบ่อน พนันออนไลน์ เพราะกลัวถูกระบุตัวตนหรือถูกโกง ก็เบาใจลงด้วยรูปแบบการรับ/จ่ายเงินออนไลน์ที่มีให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบกระเป๋าเงินออนไลน์ (E-wallet) บริการตัวกลางชำระเงินออนไลน์ที่ไม่ต้องระบุตัวตน และการเล่นพนันผ่านเหรียญสกุลเงินดิจิตัลหรือ Cryptocurrency ต่าง ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ศักยภาพเหล่านี้สะท้อนออกมาในเหตุผลที่นักพนันออนไลน์ร้อยละ 33.1 คิดว่ามาเล่นพนันออนไลน์เพราะ ‘ปกปิดเป็นความลับ / มั่นใจว่าจะไม่ถูกจับได้’ และอีกส่วนหนึ่งที่ร้อยละ 20.3 ยัง ‘คิดว่ามั่นใจว่าได้เงินครบแน่นอนหากชนะพนัน’